วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศ
คุณภาพอากาศภายในบ้านสำคัญต่อสุขภาพ มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดมลภาวะของอากาศภายในบ้าน อาทิ ฝุ่นละออง เศษละออง เกสร แก๊ซ และสารเคมี ซึ่งเครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยให้คุณภาพของอากาศภายในบ้านนั้นดีขึ้นได้ ถ้าหากอยากจะมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านสักตัว ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ได้ เพราะเมื่อเราอยากให้อากาศในบ้านสะอาดปลอดภัยสูงสุด การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพและมาตรฐาน อย่างเครื่องฟอกอากาศมาสเตอร์คูล ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่มีเครื่องฟอกอากาศที่ดี แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี และมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้จึงขอแนะนำ วิธีใช้เครื่องฟอกอากาศ อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ทำความสะอาดตัวเครื่อง และเปลี่ยนแผ่นกรอง
แผ่นกรองอากาศนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยในการดักจับฝุ่นและเชื้อโรคเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งเมื่อใช้งานไปสักระยะ อาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคจนก่อให้เกิดกลิ่นอับภายภายในเครื่องฟอกอากาศได้เช่นกัน จึงควรเปลี่ยนแผ่นกรองเมื่อถึงเวลา และทำความสะอาดแผ่นกรองชั้นอื่นๆ นอกจากนั้นยังต้องรักษาความสะอาดของตัวเครื่องฟอกอากาศให้สะอาดอยู่เสมอ เช็ดฝุ่น และคราบสกปรกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเปียกเช็ด
2. ตั้งวางเครื่องในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ตำแหน่งในการวางเครื่องฟอกอากาศ มีผลต่อการใช้งาน และประสิทธิภาพของการฟอกอากาศ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเครื่องฟอกอากาศได้แก่
- ควรตั้งเครื่องฟอกอากาศบนพื้นผิวราบ เช่น พื้น หรือโต๊ะ และควรตั้งบริเวณกลางของห้อง เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้อย่างทั่วถึง
- ไม่ควรตั้งเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องปรับอากาศไว้ในมุมเดียวกัน เพราะมีโอกาสที่เครื่องปรับอากาศจะดึงอากาศไปได้มากกว่าเครื่องฟอกอากาศ ทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ควรตั้งเครื่องฟอกอากาศในบริเวณที่ไม่มีสิ่งกีดขวางการดูดอากาศเข้า และให้อากาศสะอาดไหลเวียนไปยังบริเวณที่คุณหายใจ การวางตั้งเครื่องไว้ต่ำหรือสูงเกินไปก็จะทำให้เครื่องทำงานได้โดยไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรตั้งเครื่องให้ห่างจากวัตถุอื่นๆ หรือผนังห้องให้มากกว่า 15 ซม.
- ตั้งวางเครื่องฟอกอากาศในบริเวณที่ไม่มีสิ่งกีดขวางอากาศเข้า ไม่ควรวางชิดผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ และไม่ควรนำหนังสือ แจกัน หรือสิ่งอื่นๆ วางด้านบนเครื่อง
- หลีกเลี่ยงการตั้งวางในพื้นที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป อากาศที่ร้อนหรือเย็นจัดสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการฟอกอากาศของเครื่อง
- ไม่ควรวางเครื่องฟอกอากาศไว้ที่หัวเตียง เนื่องจากตัวเครื่องฟอกอากาศจะดูดอากาศที่ยังไม่สะอาดเข้ามากรอง ถ้าวางเครื่องฟอกอากาศไว้ที่หัวนอนก็จะเป็นดึงอากาศที่ยังไม่ได้กรองมาให้เราได้สูดหายใจนั่นเอง
- ไม่ควรวางเครื่องกรองอากาศและละอองฝุ่นหน้าห้องน้ำ เนื่องจากความชื้นจากห้องน้ำอาจทำให้ตัวกรองเสื่อมประสิทธิภาพเร็ว ทั้งยังก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียสะสมในแผ่นกรองอากาศได้อีกด้วย
3. เปิดเครื่องให้ทำงานตลอดเวลา
การฟอกอากาศนั้น เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะอากาศภายในห้อง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงควรเปิดเครื่องฟอกอากาศให้ทำงานอยู่ตลอด โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ หรือหอบหืด และสำหรับคนที่กลัวเรื่องค่าไฟนั้น เครื่องฟอกอากาศส่วนมากนั้นไม่กินไฟ หรือสามารถปรับให้เป็นพัดลมระดับต่ำสุด เพื่อให้ประหยัดมากขึ้น และหากต้องการเปิดเครื่องฟอกอากาศเฉพาะบางเวลา ขอแนะนำให้เปิดในตอนกลางคืนระหว่างการนอนหลับ
4. ใช้งานเครื่องฟอกอากาศในพื้นที่ปิด
เครื่องฟอกอากาศจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการขจัดฝุ่นละออง กลิ่น และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ปิด เช่นเดียวกับการใช้งานเครื่องปรับอากาศ เพราะตัวเครื่องฟอกอากาศจะดึงเอาอากาศภายในห้องมาฟอกภายตัวเครื่อง แล้วปล่อยออกมาหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง ดังนั้นการเปิดห้องโล่งแล้วใช้งานเครื่องฟอกอากาศ ก็จะทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักตลอดเวลา ส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเสื่อมประสิทธิภาพการใช้งานเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อากาศภายในห้องก็ไม่สะอาดเท่าที่ควร เพราะมีมลภาวะจากอากาศภายนอกลอยเข้ามาปนเปื้อนนั่นเอง
5.เลือกใช้เครื่องฟอกอากาศตามขนาดห้อง
การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับห้องเล็กและทุกขนาดพื้นที่ใช้สอย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เพราะเครื่องฟอกอากาศแต่ละตัวนั้น จะถูกออกแบบมาให้มีกำลังที่ต่างกัน จึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต่างกันออกไป ดังนั้นต้องรู้ก่อนเสมอว่า เครื่องฟอกอากาศที่ใช้งาน เหมาะกับห้องไม่เกินกี่ตารางเมตร และควรเลือกเครื่องฟอกอากาศให้มีกำลังที่มากกว่าขนาดของห้องเล็กน้อย เพราะถ้าหากนำเครื่องฟอกไปไว้ในห้องที่กว้างเกินกว่าเครื่องจะรับไหว ก็จะทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป จนอาจเสื่อมสภาพเร็ว แถมอากาศที่ได้ก็ยังไม่สะอาดบริสุทธิ์อย่างเต็มที่ และยังอาจทำให้ห้องมีกลิ่นอับอีกด้วย