เอลนีโญ “สายลมร้อน” เตรียมรับปีที่โลกจะร้อนที่สุด เท่าที่เคยมีมา
เริ่มขึ้นแล้ว! ปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ในมหาสมุทรแปซิฟิกส่งผลให้ปี 2024 ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของโลก อากาศแปรปรวน
ปรากฎการณ์เอลนีโญ กำลังเริ่มต้นขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเเล้ว อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยคาดการณ์ว่า ปี ค.ศ. 2024 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศในช่วงที่ผ่านมาและมีการคาดการณ์เอาไว้ว่านับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไปประเทศที่อยู่ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ด้วยการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก จึงทำให้ในช่วงเวลานับจากนี้ไปอย่างน้อย 2-3 ปี ข้างหน้าจะเกิดเหตุการณ์ฝนทิ้งช่วง ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล และที่สำคัญความร้อน และสภาพความแห้งแล้งจะมีความรุนแรงมากขึ้น กว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เอลนีโญ (El Nino) คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
จริงๆ แล้ว “เอลนีโญ-ลานีญา” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยอาจจะเกิดขึ้นทุกๆ 3-4 ปี สลับหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ โดยช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ โลกเราเพิ่งจะผ่านพ้นสภาพอากาศแบบลานีญา ไปหมาดๆ มาปีนี้เรากำลังจะเข้าสู่สภาพอากาศแบบเอลนีโญ ซึ่งส่งผลให้เกิด “ภัยแล้ง” ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ในสภาวะปกติของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ จะมี “กระแสลมในมหาสมุทรแปซิฟิก” พัดจากทิศตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก (ชายฝั่งประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้) ไปทางทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก (อินโดนีเซียและออสเตรเลีย) เป็นสภาพอากาศที่สมดุลทั้งกระแสลมและกระแสน้ำอุ่นในทะเล แต่ถ้าปีไหนเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ จะพบว่ามหาสมุทรแปซิฟิกมีความกดอากาศและอุณหภูมิที่ผิดปกติไปจากเดิม ทำให้ “กระแสลมในมหาสมุทรแปซิฟิก” อ่อนกำลังลง เกิดกระแสลมเปลี่ยนทิศเป็นตรงกันข้าม คือ พัดจากทิศตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก (อินโดนีเซียและออสเตรเลีย) ไปทางทิศตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก (ชายฝั่งประเทศเปรู ทวีปอเมริกาใต้) เมื่อกระแสลมเปลี่ยนทิศ ก็ทำให้ “กระแสน้ำอุ่น-น้ำเย็น” แปรปรวนและไหลผิดทิศทางไปด้วย
เอลนีโญก่อให้เกิดสภาพอากาศเลวร้าย อย่างเช่น อุทกภัย ภัยแล้ง หรือการรบกวนสภาพอากาศในหลายภูมิภาคของโลก ประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีเศรษฐกิจเน้นเกษตรกรรมและการประมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้รับผลกระทบมากที่สุด ปรากฏการณ์นี้ทำให้ฝนตกหนักในตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และก่อให้เกิดความแห้งแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตอนเหนือของออสเตรเลีย
ผลกระทบของความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรม มีผลต่อหลายด้านของการดำเนินงาน และกระบวนการผลิต
- ประสิทธิภาพการผลิต: ความร้อนสูงทำให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานทำงานไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เครื่องจักรอาจมีการทำงานช้าลงหรือต้องหยุดเพื่อระบายความร้อน นี่อาจส่งผลต่อผลผลิตของโรงงานและสามารถทำให้เสียหายทางการเงิน
- ความปลอดภัย: ความร้อนสูงอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยในโรงงาน เช่น อาจมีความเสี่ยงในการระบายความร้อนเครื่องจักรหรือการออกซิเดชันของสารเคมีที่เกิดขึ้นในอุณหภูมิสูง นอกจากนี้ ความร้อนก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงาน
- พนักงาน: การทำงานในอุณหภูมิสูงสามารถมีผลต่อสุขภาพของพนักงาน เช่น ความร้อนสามารถทำให้พนักงานประสบกับโรคความร้อนหรือความเสี่ยงต่ออาการเจ็บปวดเนื่องจากความร้อนมาก
- พลังงาน: การรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมในโรงงานอาจต้องใช้พลังงานมากขึ้น เช่น การใช้ระบบระบายความร้อนหรือระบบควบคุมอุณหภูมิ
- สิ่งแวดล้อม: การใช้ความร้อนสูงในโรงงานอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซเสียหรือสารเคมีที่มีความร้อนมากที่มีผลต่อคุณภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อมใกล้เคียง
- การบำรุงรักษา: ความร้อนสามารถเพิ่มความเสียหายให้เครื่องจักรและอุปกรณ์ทำให้ต้องทำการบำรุงรักษาบ่อยขึ้นและเพิ่มความเสียหายในระยะยาว
- การระบายความร้อน: การระบายความร้อนออกจากโรงงานอาจทำให้เกิดการปล่อยความร้อนเข้าสู่อากาศและเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความร้อนในพื้นที่ใกล้เคียง
ไทยเริ่มต้นเอลนีโญกำลังปานกลาง
รายงานสถานการณ์ล่าสุดของกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า การเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ เดือน ก.ย. นี้ พบว่าปรากฏการณ์เอนโซ อยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังปานกลาง
ไทยเข้าสู่ช่วงเอลนีโญกำลังปานกลาง และจะพีคสุดเดือน พ.ย. 2566 ถึง ม.ค. 2567 โดยคาดการณ์ฝนน้อยกว่าค่าปกติ 14% โดยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คาดว่าในช่วงเดือน ก.ย. – พ.ย. นี้ ปริมาณฝนในไทยมีค่าต่ำกว่าค่าปกติเล็กน้อย ส่วนอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย